วันพฤหัสบดีที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ประชาธิปไตยยุค "สื่อสะอื้น"

ประชาธิปไตยยุค "สื่อสะอื้น" เปลว สีเงิน 26 สิงหาคม 2554
สมน้ำหน้า นิด้าโพล เอแบคโพล กรุงเทพโพล มัวแต่งุ่มงาม เลยเสร็จ "เฉลยทรัพย์โพล" เห็นมั้ยล่ะ ขนาดผม "นายกฯ ยิ่งลักษณ์" แถลงปิดประชุมรัฐสภาเสร็จ รีบวิ่งเข้าห้องน้ำ รูดซิปได้ครึ่งเดียว "เฉลยทรัพย์ โพล" เสร็จแล้ว ประชาชนร้อยละ ๖๒.๖๑% พอใจการแถลงนโยบายรัฐบาล

ชื่นชอบการอภิปรายของรองนายกฯ เฉลิมอันดับ ๑ และนายกฯ ยิ่งลักษณ์อันดับ ๒!
นั่นก็ยกไว้ รองนายกฯ เฉลิม "เพื่อนเลิฟ" ผม ยังไงๆ ก็ต้องที่ ๑ วันยังค่ำอยู่แล้ว แต่ผลสำรวจในหัวข้อที่อ่านแล้ว ต้องปล่อยฮาาาาา เพราะสุดกลั้นในอารมณ์หยันจนแป๊บปัสสาวะเปิด ก็ตรงที่ให้ผลสำรวจออกมาว่า

"......สิ่งที่ประชาชนได้รับจากการแถลงนโยบาย-การอภิปรายครั้งนี้ พบว่า 62.79% ระบุว่า มีความชัดเจนในรายละเอียดของนโยบาย/เข้าใจนโยบายมากขึ้น/รู้ถึงแนวทางการทำงานของรัฐบาล"!

โถ...โถ...พ่อคุณ พ่อเฉลยทรัพย์ ไปสำรวจประชาชนจากดาวดวงไหนมามิทราบ...โพลของท่านน่ะ ประชาชนที่ไล่ทุบนักศึกษา ๒ คนหน้ารัฐสภาที่เอาหรีดไปมอบ "นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์" วานนี้ หรือสำรวจจากประชาชนละแวกหมู่บ้านเสื้อแดง?

เพราะเท่าที่เห็น ขนาดตัวนายกฯ ผู้เป็นเจ้าของนโยบายเอง ยังเงอะๆ งะๆ เขาถามม้า ตอบช้าง เขาถามช้าง ตอบแรด แสดงว่า "ยังไม่ชัดเจน" และยังยากเข้าใจทั้งรายหยาบและรายละเอียดในขั้นตอนปฏิบัติตามนโยบาย เพียงแต่เขาร่างแล้วพิมพ์เป็นเล่มให้อ่าน-ก็อ่านไปตามพิธีกรรม

แต่ "เฉลยทรัพย์โพล" แผล็บๆ...

๖๒.๗๙% ชัดเจน-เข้าใจ-ใสแจ๋ว ผ่านผลสำรวจที่ออกไล่หลังการปิดอภิปรายไม่ถึง ๒ ชั่วโมง!?

ไวยิ่งกว่ากดตู้ ATM อีกแน่ะ?

ถ้าผมเป็นนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ใครมาว่าไม่ประสาในนโยบาย ผมจะตอบเขาว่า..."ถูกต้องค่ะ ก็พี่ชายชั้นคิด ชั้นไม่ได้คิดเอง แล้วจะให้ดิชั้นชัดเจน-เข้าใจได้ไง รอเป็นจ๊อบๆ ไปซีคะ พี่ชายเค้าสั่งให้ทำเรื่องไหน-จ๊อบไหน เค้าก็จะให้ "คู่มือการใช้" กำกับมาด้วย แล้วดิชั้นก็จะทำตามนั้น"!
ดังนั้น ผลสำรวจชิ้นนี้ "ประจบเกินต้องการ" ไปหน่อย ว่ามั้ย...จาน?

และผมก็อยากถามให้แน่ใจว่า คน ๑,๑๐๘ คน ที่ตอบแบบสอบถามออกมาเป็นผลสำรวจนั้น เป็น "มนุษย์เดินดิน" จริงๆ ไม่ได้จุดธูปถามระดับเทพบนสวรรค์!?

ไม่ใช่อะไรหรอก ขนาด ส.ส.-ส.ว.ในรัฐสภาเองแท้ๆ เขายังไม่ค่อยเข้าใจในนโยบายหลายๆ ข้อ จนต้องลุกขึ้นซัก ลุกขึ้นถาม และลุกขึ้นจะซัดปากกัน เพราะคนตอบคือฝ่ายรัฐบาลเองก็ยังมึนงง ไม่รู้จะตอบให้ชัดเจน-เข้าใจกันได้ยังไง

แต่เฉลยทรัพย์โพลกลับบอกว่าตั้งกว่า ๖๐% ชัดเจน-เข้าใจ-ใสแจ๋ว มันน่าจะเอาคนตอบโพลนั้นมาให้คุณสรยุทธ์สัมภาษณ์ออกรายการข่าวช่อง ๓ ตอนเย็นๆ ซะจริงๆ

อยากเห็นหน้าเทพอัจฉริยะพันธุ์เฉลยทรัพย์ที่สามารถ ชัดเจน-เข้าใจนโยบาย "ทักษิณคิด-เพื่อไทยทำ" เหนือระดับมนุษย์สามัญอย่างเราๆ ท่านๆ!

เอ้า...ท่านอ่านรายละเอียดของโพลดูหน่อยก็ได้ ผมลอกจากเว็บไซต์ข่าวตอนเย็นวานนี้ (๒๕ ส.ค.)

"สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต เปิดเผยผลสำรวจเรื่อง "การแถลงนโยบายรัฐบาลยิ่งลักษณ์" ประชาชนได้ให้คะแนนรัฐบาล 5.61 คะแนน และให้คะแนนฝ่ายค้าน 5.38 คะแนน จากคะแนนเต็ม 10 จากความคิดเห็นประชาชนที่พักอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ที่ติดตามการแถลงนโยบายครั้งนี้ จำนวนทั้งสิ้น 1,108 คน ดำเนินการสำรวจระหว่างวันที่ 23–25 สิงหาคม 2554

ผลสำรวจพบว่า สิ่งที่ประชาชนพอใจกับการแถลงนโยบายและการอภิปรายในครั้งนี้ อันดับ 1 ได้รับรู้ เข้าใจเกี่ยวกับนโยบายที่รัฐบาลจะดำเนินการ 62.16% อันดับ 2 ทำให้เห็นข้อดี-ข้อเสีย รายละเอียดเกี่ยวกับนโยบายต่างๆ 22.97% อันดับ 3 มีการกำหนดระยะเวลาการพูดที่แน่นอน ไม่ยืดเยื้อ 14.86%

ส่วนสิ่งที่ประชาชนเบื่อหน่ายจากการแถลงนโยบายและการอภิปรายในครั้งนี้ อันดับ 1 การโต้เถียง ทะเลาะกันไปมา มีการประท้วงจนจับใจความเนื้อหารายละเอียดไม่ได้ 60.38% อันดับ 2 พูดไม่ตรงประเด็น/พูดนอกเรื่อง/พูดจากระทบกระเทียบเปรียบเปรยมากเกินไป 28.30% อันดับ 3 มีการอ่านเอกสาร ทำให้ไม่น่าฟัง 11.32%

สิ่งที่ประชาชนได้รับจากการแถลงนโยบาย-การอภิปรายครั้งนี้ พบว่า 62.79% ระบุว่ามีความชัดเจนในรายละเอียดของนโยบาย/เข้าใจนโยบายมากขึ้น/รู้ถึงแนวทางการทำงานของรัฐบาล รองลงมา 20.93% ระบุว่า ได้เห็นความตั้งใจของทั้งสองฝ่ายในการที่จะบริหารประเทศ และแก้ไขปัญหาบ้านเมือง ส่วนอีก 16.28% ระบุว่า ได้เห็นการพูดจา/พฤติกรรม/มารยาทที่ไม่เหมาะสม/การควบคุมอารมณ์ของ ส.ส.-ส.ว.

ทั้งนี้ ฝ่ายรัฐบาลที่ประชาชนชื่นชอบมากที่สุด 3 อันดับแรก จากการแถลงนโยบายรัฐบาล คือ อันดับ 1.ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ได้ 44.26% อันดับ 2 น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ 39.34% และอันดับ 3 น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.ไอซีที ได้ 16.39%

ส่วนฝ่ายค้านที่ประชาชนชื่นชอบ จากการอภิปราย มากที่สุด 3 อันดับแรก คือ อันดับ 1 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ว่าที่หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ 48.39% อันดับ 2 นายชวน หลีกภัย ได้ 32.26% และอันดับ 3 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย ได้ 19.35%"

เฉลยทรัพย์โพลบอกว่าฝ่ายรัฐบาลที่ประชาชนชื่นชอบอันดับ ๑ คือ ร.ต.อ.เฉลิม ตรงนี้ผมไม่ติดใจ เพราะทั้ง ๓ วัน ร.ต.อ.เฉลิมเล่นบท "นายกฯ ตัวจริง" รบ-ปกป้องรัฐบาลเพื่อไทย รบ-ปกป้องนายกฯ หุ่นเชิดยิ่ง และรบ-ปกป้องเจ้าของรัฐบาลตัวจริง คือทักษิณ ชนิด...เข้าเบ้าตาเต็มๆ
ขันน้ำ-พานรอง ที่ ๑ ให้ท่านรองนายกฯ เฉลิมท่านไปเหอะ!

แต่ติดใจ ด้วยอิจฉาคนได้ที่ ๒ นี่แหละ แหม...แทบจะไม่ได้พูด (เอง) ซักแอะ แต่ดันได้เกียรตินิยมอันดับ ๒ ชื่นชอบการอ่านนโยบายอึด ๒-๓ ชั่วโมงเนี่ยนะ?

เฮ้อ...กูจะบ้าตาย!

ขอแถมท้ายนิด เคยคุยกันไปตั้งแต่ต้นเดือนกรกฎาว่า อะไรที่เกี่ยวกับความเร็ว เกี่ยวกับการสื่อสารทั้งหลาย ไม่ว่าวิทยุ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ อินเทอร์เน็ต ดาวเทียม รถไฟ เครื่องบิน ดินฟ้าอากาศ ตั้งแต่ดาวพุธถูกคราสในราศีรัฐสภา-ประชาธิปไตย คือราศีเมถุน
ต้องระวัง "ดาวพุธ" จะมีเรื่องร้ายมากกว่าเรื่องดี!

เห็นมั้ยล่ะ พวก "สื่อ" เป็นข่าว-เป็นคราว "ฉาว" มาตลอด กระทั่งสื่อในบ้านเราก็โฉ่เบาซะที่ไหน ยิ่งพอระบอบทักษิณครองเมือง ที่เขาตะโกนยื้อเมืองตะก่อนว่า...เอาประชาธิปไตยคืนมา...พวกกูมาทวงประชาธิปไตย

แล้วเป็นไง จากการชนะเลือกตั้ง เอาประชาธิปไตยระบบรัฐสภาไปใช้ หรือเอาประชาธิปไตยระบอบทักษิณไปใช้กันแน่ก็ไม่ทราบ

ที่ทราบกัน ได้ "อำนาจบริหารประเทศ" ตามระบอบประชาธิปไตยไป

แต่ที่เห็นกัน เห็นการใช้ "อำนาจเผด็จการประชาธิปไตยระบอบทักษิณ!?"

นักข่าวสาวโทรทัศน์คนหนึ่ง ถามนายกฯ ปัพเพ็ตด้วยคำถามไม่ประจบเอาใจ ถูกขึ้นบัญชีดำ ถูกข่มขู่คุกคาม จนกลุ่มนักข่าวทระนงต้องเข้าชื่อทำหนังสือแจ้งนายกฯ

นี่คือสิทธิเสรีภาพในยุคประชาธิปไตยระบอบทักษิณ!

นักศึกษา ๒ คน ไม่พอใจบทบาทประธานรัฐสภา "นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์" นำหรีดไปมอบให้ที่หน้ารัฐสภา ปรากฏว่าถูกคณะองครักษ์รัฐบาลเสื้อแดงไล่สกรัม ล็อกคอลากตัวไปอย่างที่เห็นภาพ-ข่าวจากจอโทรทัศน์และหน้าหนังสือพิมพ์
นี่คือสิทธิเสรีภาพในยุคประชาธิปไตยระบอบทักษิณ!

ถือเป็นบทอนุสติได้อย่างหนึ่งเหมือนกัน คือในรัฐบาลที่เขาให้สิทธิเสรีภาพในด้านข่าวสาร ก็ไม่เคยพอใจ แถมร้องกันตลอดว่า ถูกลิดรอนนั่น ถูกปิดกั้นนี่มาตลอด มาถึงวันนี้ เมื่อเจอประชาธิปไตยระบอบทักษิณ ขนาดพับเพียบสัมภาษณ์ก็ยังต้องดิ้นพราดๆ กันแล้ว ก็คงได้ตัวอย่างเปรียบเทียบเพื่อคิดกันแล้วล่ะว่า

สิทธิเสรีภาพแท้จริงนั้น ไม่มีอยู่ที่ประชาธิปไตย ไม่มีอยู่ที่ใคร ไม่มีใครจะให้กับใครได้ แต่มันมีอยู่ที่เรา และขึ้นอยู่กับเราที่จะใช้มันด้วยทระนงแห่งสัจจะและความจริงใจ หรือซ่อนเล่ห์แสวงหาด้วยลีลาอสัตย์และเสแสร้ง

ถ้าด้วยสัจจะและจริงใจ คำนวณ "ขนาดของหัวใจ" ตัวเองแน่แล้ว ไม่ต้องแคร์แดม!
แต่ถ้าใช้สิทธิเสรีภาพนั้น ด้วยอสัตย์และเสแสร้ง หวังประโยชน์ตน-ปล้นประโยชน์เขา ไปบังร่มเงาชายกระโปรง ก็เป็นทางเลือกที่ผมขอเสนอให้เลือกนะ!

http://www.thaipost.net/news/260811/43983

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น