ประชา บูรพาวิถี
ถ้อยวลี "ฮู้บ้างว่าไผเป็นไผ" ยังไม่ล้าสมัย เมื่อคนเสื้อแดงอุดร ต้องไปเผชิญความจริงวันนี้ที่เวียงจันทน์!
เรื่องเล่าอันชวนขำขื่นเรื่องนี้ เกิดขึ้นเมื่อ ขวัญชัย ไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดร วางแผนจัดทัวร์ฉลองชัยที่ สปป.ลาว ในวันที่ 31 สิงหาคม 2554
"ขวัญชัย" ได้ตีฆ้องร้องป่าวผ่านสถานีวิทยุชมรมคนรักอุดร 97.5 เมกะเฮิรตซ์ และสถานีทีวีดาวเทียม P&P Channel ว่า ตัวเขาเดินทางไปเวียงจันทน์ ได้พบกับ ดร.พูทอง แสงอาคม รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ สปป.ลาว และ คำมุ่ย แก้วมะนี เจ้าของบริษัทเพ็ดจำปาแอดเวอร์ไทซิ่ง ซึ่งคนลาวทั้งสองต่างชื่นชมพรรคเพื่อไทย และคนเสื้อแดง
ประธานชมรมคนรักอุดร จึงกำหนดแผนทัวร์เวียงจันทน์ โดยให้สิทธิสมาชิกชมรมฯ จับจองตั๋วทัวร์ลาว ใบละ 1 พันบาท
"ขวัญชัย" ยังประกาศให้ลูกทัวร์สวมเสื้อแดงที่มีโลโก้ "ชมรมคนรักอุดร" เพื่อแสดงพลังคนเสื้อแดงให้คนลาวได้ประจักษ์ โดยทางรัฐมนตรีลาวจะคอยอำนวยความสะดวกให้ทุกอย่าง และมีรถตำรวจลาวนำขบวนอย่างโก้หรู
แต่แล้วขวัญชัยก็พลาด! "ดร.พูทอง" ไม่ได้เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ แล้ว เนื่องจากมีการยุบการกีฬาไปรวมกับกระทรวงศึกษา เมื่อการประชุมสมัชชาพรรคฯ ต้นปีนี้
"คำมุ่ย" ก็แค่นักธุรกิจบันเทิงคนหนึ่งที่รับจัดงานอีเวนท์ และเคยมีชื่อเสียงสมัยที่ลาวเป็นเจ้าภาพซีเกมส์
ยิ่งมีการปล่อยข่าวผ่านเครือข่ายคนเสื้อแดงอุดรว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะมาพบชมรมคนรักอุดรที่โรงแรมเพ็ดจำปา ในช่วงอาหารเย็น ยิ่งทำให้ "พรรคประชาชนปฏิวัติลาว" รู้สึกไม่พอใจ
ใครก็ทราบว่า บนแผ่นดินฝั่งซ้าย "คณะกรรมการบริหารพรรคประชาชนปฏิวัติลาว" คือผู้กุมอำนาจสูงสุด ทุกการเคลื่อนไหวล้วนอยู่ในสายตาของพรรคฯ
คนต่างด้าวท้าวต่างแดนจะไปใช้แผ่นดินลาว เพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง "ผู้พรรคลาว" ไม่ยอมให้เกิดขึ้นอย่างเด็ดขาด
พรรคลาวฯ ได้ออกคำสั่งห้ามการเคลื่อนไหวทางการเมืองมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ก่อนหน้าการประชุมสมัชชาพรรคประชาชนปฏิวัติลาว
นี่คือความผิดพลาดอย่างมหันต์ของขวัญชัย และชาวชมรมคนรักอุดร ก็ได้ลิ้มรสกับคำว่า "อำนาจนำของพรรคเดียว" ผ่านเจ้าหน้าที่ระดับสูงของด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) สปป.ลาว ประจำด่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาว
เมื่อรถบัส 10 คัน นำสมาชิกชมรมคนรักอุดร จำนวน 567 คน ข้ามโขงไปถึงด่าน ตม. ของ สปป.ลาว ก็พบปัญหาที่อยู่เหนือความคาดหมาย
รองหัวหน้า ตม.ลาว ได้บอกกับขวัญชัยว่า ไม่อนุญาตให้คนเสื้อแดงเดินทางเข้าไปในประเทศ เพราะจะกระทบกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ หากจะเข้าไปเที่ยวเวียงจันทน์จริงๆ ก็ต้องเปลี่ยนจาก "เสื้อแดง" เป็น "เสื้อหลากสี"
"ขวัญชัย" พยายามหาทางเจรจาอยู่นานกว่า 3 ชั่วโมง ก็ไม่เป็นผล แม้จะโทรศัพท์ไปหา ดร.พูทอง ก็ช่วยอะไรไม่ได้ และต่อสายถึง ประจวบ ไชยสาส์น ให้ช่วยเคลียร์กับทางสถานทูตลาวในไทย ก็ไม่ช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบาได้
สุดท้าย ขวัญชัย จึงให้ทีมงานไปซื้อเสื้อ กว่า 500 ตัวมาเปลี่ยน แต่รองหัวหน้า ตม.ลาว ก็ยังสั่งยึด "เสื้อแดง" ไว้ทั้งหมด และจะคืนให้เมื่อเดินทางกลับออกมาจากเวียงจันทน์
มิหนำซ้ำ "ทัวร์เสื้อหลากสี" ยังถูกประกบด้วยตำรวจลาว ทั้งในและนอกเครื่องแบบ ไม่ว่าจะไปเที่ยวสถานที่ใด ก็มีการติดตามสอดส่องทุกฝีก้าว ด้วยเกรงว่าจะมีการแสดงออกทางการเมือง
ในที่สุด ทัวร์วิบากก็กลับไทยเร็วกว่ากำหนด ขวัญชัยจึงต่อสายให้ "นายทักษิณ" โทรศัพท์มาปลอบใจสมาชิก
เรื่องนี้สอนให้ ขวัญชัย รู้ว่า บนแผ่นดินลาวต้อง "แดงคอมมิวนิสต์" เท่านั้น...ฮู้บ้างว่าไผเป็นไผ??
http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/politics/opinion/pracha/20110902/407594/%E0%B9%84%E0%B8%9C%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%9C-.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น