นี่'เหลิม-ดอกจิก'หรือ'ดร.ออฟลอว์'กันแน่! โดย 'เสถียร วิริยะพรรณพงศา'
อาจจะเป็นเรื่องไร้สาระ ถ้าอยู่ ๆ มีคนบอกว่า อยากจะล้มคดีที่ศาลตัดสินแล้วเอามาตัดสินใหม่ทั้งหมด
ถ้าคนพูดไม่ใช่ระดับรองนายกรัฐมนตรีอย่าง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง
ดอกเตอร์ออฟลอว์! แห่งบางบอน บอกว่า คำสั่งศาลแพ่ง ที่ให้การซื้อขายที่ดินรัชดาระหว่างคุณหญิงพจมาน และกองทุนฟื้นฟูเป็นโมฆะ ทำให้ความผิดของพ.ต.ท.ทักษิณ หายตามไปด้วย
เป็นการตัดตอนอย่างร้ายกาจ เพราะร.ต.อ.เฉลิม ไม่ยอมบอกว่า ที่ศาลแพ่งสั่งให้การซื้อขายเป็นโมฆะนั้น ก็เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ ทำผิดกฎหมายปปช.มาก่อนหน้านี้
ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนั้น ตัดสินจบแล้วว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มีความผิดตามมาตรา 100 ของ ปปช. ที่ให้การกระทำเป็นความผิด เนื่องจากผู้กระทำเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ทั้งยังบัญญัติให้การกระทำของคู่สมรสของเจ้าหน้าที่ของรัฐ ถือเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐเอง
คดีนี้จบไป โดยที่ศาลตัดสินว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มีความผิดลงโทษจำคุก 2 ปี
คดีจบแล้ว พ.ต.ท.ทักษิณ ผิดแล้ว แต่ที่ค้างอยู่คือ “สัญญา”
กองทุนฟื้นฟูที่ขายที่ดินรัชดา ก็ฟ้องต่อศาลแพ่งว่า ให้การซื้อขายนี้เป็นโมฆะ
ศาลแพ่งก็บอกว่า เป็น “โมฆะ” เพราะมันเป็นสัญญาที่ทำไม่ถูกตั้งแต่ต้น
นี่แหล่ะคือประเด็นที่ “ดอกเตอร์ออฟลอว์” เฉือนมาครึ่งเดียว แล้วก็อธิบายเป็นเรื่องเป็นราวว่าในศาลแพ่งยกว่า การซื้อขายครั้งนั้นเป็นโมฆะ ก็เท่ากับว่าไม่เคยมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นมาก่อน ทุกอย่างกลับไปเริ่มที่ศูนย์
แต่ประเด็นคือมันจะกลับไปที่ศูนย์ไม่ได้ เพราะ “กรรม” ของพ.ต.ท.ทักษิณ ที่ไปทำผิดกฎหมาย ปปช.นั้นยังอยู่
คำพิพากษาศาลฎีกานักการเมืองที่ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ติดคุก 2 ปี ก็ยังอยู่ ฎีกาก็ไม่ได้ เพราะศาลนี้มีชั้นเดียว จะล้มได้ก็ต้องรอให้ทหารมายึดอำนาจ หรือไม่ก็ออกพรบ.นิรโทษกรรม
แต่ที่ผ่านมา ไม่เคยมีใครนิรโทษกรรมเพื่อคน ๆ เดียว
เรื่องนี้ น่าสนใจตรงที่ว่า ประเด็นนี้ถูกเปิดขึ้นมา ในช่วงที่มีความเคลื่อนไหวเพื่อขอพระราชทานอภัยโทษให้ พ.ต.ท.ทักษิณ มีความน่าสงสัยว่า มันเกื้อหนุนกันหรือไม่
เพราะเมื่อดูเงื่อนไขของการขอพระราชทานอภัยโทษแล้ว บอกตามตรงว่า ยากเหลือเกินที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะเดินบนเส้นทางนี้
ข้อถกเถียงกันว่า การเป็นนักโทษหลบหนีคดีนั้น มีสิทธิ์ขอรับพระราชทานอภัยโทษหรือไม่ ก็ยังไม่จบ
ถ้าดูกฎหมาย ก็เห็นชัดว่า ไม่เป็นใจอย่างยิ่ง
พระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ. ๒๕๕๓
มาตรา ๔ ผู้ซึ่งจะได้รับพระราชทานอภัยโทษตามพระราชกฤษฎีกานี้ต้องมีตัวอยู่ในความควบคุมของทางราชการ หรือถูกกักขังไว้ในสถานที่หรือที่อาศัยที่ศาลหรือทางราชการกำหนดในวันที่พระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับติดต่อกันไปจนถึงวันที่ศาลออกหมายสั่งปล่อยหรือลดโทษ หรือนายกรัฐมนตรีมีคำสั่งปล่อยหรือลดโทษตามที่บัญญัติไว้ในพระราชกฤษฎีกานี้ เว้นแต่ผู้ทำงานบริการสังคมหรือทำงานสาธารณประโยชน์แทนค่าปรับ และผู้ได้รับการปล่อยตัวคุมประพฤติ
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
มาตรา 260 ผู้มีเรื่องราวซึ่งต้องจำคุกอยู่ในเรือนจำ จะยื่นเรื่องราวต่อพัศดีหรือผู้บัญชาการเรือนจำก็ได้ เมื่อได้รับเรื่องราวนั้นแล้ว ให้พัศดีหรือผู้บัญชาการเรือนจำออกใบรับให้แก่ผู้ยื่นเรื่องราว แล้วให้รีบส่งเรื่องราวนั้นไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
กฎหมายระบุว่า ถ้าจะขอพระราชทานอภัยโทษ ต้องรับโทษอยู่ในเรือนจำ ดังนั้นจึงพอจะเชื่อมโยงได้ว่า ร.ต.อ.เฉลิม ก็เลยต้องออกมาบอกว่า ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่เข้าไปรับโทษก็เพราะ “ไม่ผิด” ตั้งแต่ต้น
เพื่อแง้มช่องว่างเล็ก ๆ ของกฎหมาย เพื่อขอพระราชทานอภัยโทษให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
ภารกิจสู้เพื่อนายใหญ่ทำให้ “ดอกเตอร์ออฟลอว์” ถูกมองเป็นตัวตลก
จะไปแข่งกับเจ๋ง ดอกจิก หรือยังไงท่านรอง...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น