หยุดปั่นหัวประชาชนด้วยความเห็นผิด (สารส้ม)
ลำพังถ้าใครจะบ้าอยู่ลำพังคนเดียว ก็คงไม่เดือดร้อนใคร...
หรือใครจะโง่อยู่คนเดียว ก็คงจะไม่หนักหัวใคร...
แต่ถ้าพยายามจะใช้ความคิดเห็นแบบบ้าๆ โง่ๆ นำไปปลุกระดม ปลุกปั่น สร้างความคาดหวังให้แก่ประชาชนในทางผิดๆ เพียงเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวของคนบางคน แบบนี้ประเทศชาติไม่มีวันสงบสุขแน่
ยิ่งถ้าคนพรรค์อย่างนี้ได้มีอำนาจ มีตำแหน่งใหญ่โต ก็น่าเป็นห่วงว่าจะ "ปั่นหัว" ประชาชน สร้างความเสียหายแก่ส่วนรวมได้มากขนาดไหน
1) พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ส.ส.พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน แพร่ข่าวออกไปยังประชาชนทั่วประเทศ เกี่ยวกับคดีที่ดินรัชดาของทักษิณ โดยบอกว่า ทักษิณไม่ได้ทำอะไรผิด ศาลแพ่งได้พิจารณาแล้วว่าไม่ได้มีการซื้อที่ดิน ทั้งยังมีการคืนเงินให้คุณหญิงพจมาน จึงสรุปได้ว่า ทักษิณไม่ได้ทำสัญญาใดๆ กับรัฐทั้งสิ้น ศาลฎีกาฯ จะต้องรับผิดชอบ เพราะเหตุการณ์เปลี่ยนไป จะต้องตัดสินใหม่
ฟังแล้วก็ได้แต่สังเวชใจ...
นี่หรือความคิดอ่านของคนที่เคยเป็นถึงรองประธานสภาผู้แทนราษฎร
หรือเพราะนักการเมืองใช้สติปัญญาพรรค์อย่างนี้หรือเปล่า บ้านเมืองของเรามันถึงได้เละตุ้มเป๊ะ?
2) เรื่องแบบนี้ มีหรือคนพรรค์อย่างเดียวกันจะพลาด...
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีเดียวกันนี้ด้วยว่า เมื่อศาลแพ่งตัดสินว่าสัญญาการซื้อขายที่ดินระหว่างคุณหญิงพจมานกับกองทุนฟื้นฟูฯ เป็นโมฆะ เท่ากับว่า ไม่มีการซื้อขาย ทุกอย่างต้องกลับไปสู่จุดเดิม และให้กองทุนฟื้นฟูฯ คืนเงินคุณหญิงพจมาน ดังนั้น พ.ต.ท.ทักษิณจึงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการซื้อขายแล้ว เพราะสัญญาเป็นโมฆะ แต่คดีที่ศาลฎีกาฯ สั่งจำคุก 2 ปี ในข้อหานี้ จะทำอย่างไรคดีนี้ต้องให้ความเป็นธรรม พ.ต.ท.ทักษิณ
ฟังแล้วก็อดนึกไม่ได้ว่า คนนี้น่ะหรือรองนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย!
ฉลาดจริง แกล้งโง่ หรือโง่จริงๆ หว่า?
3) ข้ออ้างของบริวารทักษิณที่ว่า เมื่อศาลแพ่งตัดสินว่าสัญญาซื้อขายเป็นโมฆะ ให้คืนเงินค่าที่ดินแก่คุณหญิงพจมานไปแล้ว เพราะฉะนั้น ทักษิณก็ต้องไม่มีความผิดด้วย เป็นการอ้างแบบ "จับแพะชนแกะ"
ส่อเจตนาที่จะบิดเบือนข้อเท็จจริง และทำให้ศาลฎีกาฯ ถูกเข้าใจผิดโดยสาธารณชน และทำให้ประชาชนที่หลงเชื่อเกิดความคาดหวังผิดๆ ต่อศาลฎีกาฯ
คดีที่ดินรัชดาฯ นั้น ศาลฎีกาฯ พิพากษาไปแล้ว คดีถึงที่สุดไปแล้ว
จบไปแล้ว...
จบก็คือจบ...
จะให้ศาลฎีกาฯ กลับไปล้มล้างคำพิพากษาของศาลฎีกาฯ เอง เพียงเพราะคำพิพากษาไม่เป็นคุณกับจำเลย หรือไม่เป็นที่ชอบใจของฝ่ายการเมืองพรรคพวกรัฐบาล ไม่อาจกระทำได้
ยิ่งกว่านั้น ในคดีดังกล่าว ทักษิณและทีมทนายความของเขา ได้ต่อสู้อย่างเต็มที่ ทุกวิถีทาง จ้างทนายเก่งๆ ก็แล้ว เอาเงินใส่ถุงขนมก็แล้ว แต่ก็ซื้อศาลไม่ได้ ในที่สุดก็ต้องจำนนด้วยหลักฐานข้อเท็จจริง แล้วจึงหนีออกนอกประเทศ ไม่กลับมาจนถึงวันนี้
การที่ภายหลัง ศาลแพ่งตัดสินให้การซื้อขายเป็นโมฆะ คืนเงินให้เมียทักษิณ ก็ไม่ได้ขัดหรือแย้งกับคำพิพากษาของศาลฎีกาฯ เลยแม้แต่น้อย ตรงกันข้าม กลับยิ่งสะท้อนชัดถึงการกระทำผิดของทักษิณ ชินวัตร ว่าได้เป็นตัวทำให้การซื้อที่ดินรัชดาฯ ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย
ก็ถ้าทักษิณทำถูกกฎหมาย ศาลแพ่งจะให้คืนที่ดิน-คืนเงินกันไปทำไม
คิดง่ายๆ ไม่ต้องเป็นดอกเตอร์ก็คิดได้!
โจรขโมยควาย ตำรวจจับโจรได้ เอาควายไปคืนชาวบ้าน จะถือว่าโจรไม่ผิดแล้ว... งั้นหรือ?
ถ้าชายโฉดไปหลอกจดทะเบียนสมรสซ้อนกับสาวนางหนึ่ง หวังแบ่งสินสมรสกับฝ่ายหญิง แต่เมื่อถูกจับได้ว่าจดทะเบียนสมรสซ้อน การจดทะเบียนสมรสนี้ก็ถือเป็นโมฆะ ชายโฉดมันก็ต้องคืนสินสมรสที่ได้ไปจากฝ่ายหญิงทั้งหมด แล้วชายโฉดก็หาได้รอดพ้นจากความผิดฐานหลอกลวง หรือการกระทำผิดอื่นๆ ในระหว่างไปหลอกรับประทานเขา
4) ช่วงนี้ สังเกตว่ามีบริวารทักษิณขยันออกมาแสดงความเห็น หรือให้ข่าวในลักษณะที่เป็นสารปนเปื้อนทางสติปัญญาบ่อยครั้ง
คิดเล่นๆ ว่า อาจจะเป็นขบวนการ "รับจ้างถูกด่าแทนนายกฯ" กระมัง?
เพราะถ้าไม่มีข่าวสารประเด็นการเมืองอื่นๆ ขึ้นมากลบข่าวนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ก็เชื่อได้ว่า นายกฯ คนนี้ จะต้องถูกสื่อมวลชนวิพากษ์วิจารณ์ในการทำงานอย่างยับเยินยิ่งกว่านี้ ไม่ว่าจะเรื่องการโยกย้ายข้าราชการ การแก้ปัญหาน้ำท่วม หรือการบิดพลิ้วนโยบายหาเสียง ฯลฯ
แต่ที่อันตรายที่สุด คือ การที่คนในรัฐบาล หรือบริวารลิ่วล้อของทักษิณทั้งหลาย ใช้วิธีปั่นหัวผู้คนในสังคมด้วยความเห็นผิดๆ และมีการนำข้อมูลที่ไม่ถูกต้องเช่นนี้ไปปลุกระดมอย่างเป็นขบวนการ สำทับด้วยการครอบงำ ปิดกั้น แทรกซื้อและแทรกแซงสื่อที่กำลังเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ย่อมจะสร้างความคาดหวังผิดๆ บนพื้นฐานความเข้าใจผิดต่อสถาบันสำคัญๆ (เช่น ศาลยุติธรรม และสถาบันเบื้องสูง) ให้แก่ประชาชนที่หลงเชื่อ
ผู้ใดหลงเชื่อโดยไม่ลืมหูลืมตา ไม่เปิดรับข้อมูลมุมอื่นบ้าง ก็จะกลายเป็นจิ้งหรีดที่ถูกเขาปั่นหัว กระทั่งพร้อมจะทำอะไรผิดๆ เพื่อผลประโยชน์ผิดๆ ของตัวนักการเมืองพรรค์อย่างนี้อีกต่อไปเรื่อยๆ
http://www.naewna.com/news.asp?ID=279153
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น