แกนหลักแห่งความมั่นคงของชาติ
แกนหลักแห่งความมั่นคงของชาติได้แก่ สถาบันชาติ สถาบันศาสนา และสถาบันพระมหากษัตริย์
ความ สำคัญของสถาบันทั้งสามปรากฎอยู่ในธงไตรรงค์ซึ่งเป็นธงชาติไทย ซึ่งพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงริเริ่มให้ใช้ธงไตรรงค์เป็นธงชาติไทยตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๖๐ เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบันนี้
พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระราชนิพนธ์ความหมายของธงไตรรงค์ไว้ดังนี้
แดง คือ โลหิตเราไซร้ ซึ่งยอมสละได้ เพื่อรักษาชาติศาสนา (แดงหมายถึงสถาบันชาติ)
ขาว คือ บริสุทธิ์ศรีสวัสดิ์ หมายถึงพระไตรรัตน์ และธรรมคุ้มจิตใจ (ขาวหมายถึงสถาบันศาสนา)
น้ำเงิน คือ สีโสภา อันจอมประชา ธ โปรดเป็นส่วนพระองค์ (น้ำเงินหมายถึงสถาบันพระมหากษํตริย์)
สถาบัน ชาติ สถาบันศาสนา และสถาบันพระมหากษัตริย์ จึงเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ไม่อาจแยกจากกันได้ ตามคำกล่าวที่ว่า “พระมหากษัตริย์คู่ชาติ พุทศาสน์คู่ไทย”
ความหมายของสถาบันพระมหากษัตริย์
ความหมายของ “พระมหากษัตริย์” ตามรูปศัพท์ หมายถึง “นักรบผู้ยิ่งใหญ่” ถ้า จะถือตามความหมายที่ใช้กันอยู่ทั่วไปและความเข้าใจตามธรรมดาแล้วพระมหา กษัตริย์ก็คือ พระเจ้าแผ่นดิน ในภาษาสันสกฤตคำว่า กษัตริย หมายถึงผู้ป้องกันหรือนักรบ มีคำเรียกพระมหากษัตริย์ หลายคำเช่น พระราชา หรือราชัน หมายถึง ผู้ชุบน้อมจิตใจของผู้อื่นไว้ด้วยธรรม จักรพรรดิ หมายถึง ผู้ปกครองที่ปวงชนพึงใจและเป็นผู้มีคุณธรรมสูง และใกล้เคียงกับคำว่า ธรรมราชา หมายถึง ผู้รักษาและปฏิบัติธรรมทั้งเป็นต้นเหตุแห่งความยุติธรรมทั้งปวง คำว่าพระเจ้าอยู่หัว หมายถึง พระผู้เป็นผู้นำ หรือประมุขของประเทศ และคำว่า “พระเจ้าแผ่นดิน” หมายถึงพระมหากษัตริย์ทรงเป็นเจ้าของแผ่นดิน
ไม่ว่าจะเลือกใช้คำใด คำว่า “ราชา” “กษัตริย์” “จักรพรรดิ” โดยความหมายแล้วน่าจะใช้เหมือนๆกัน อย่างไรก็ดีในสังคมไทยเรียกพระมหากษัตริย์ว่า “ในหลวง” “พ่อหลวง” “พ่อของแผ่นดิน” ความหมายก็คือเป็นผู้ปกครองที่เปรียบเหมือนพ่ออยู่เหนือเกล้าเหนือชีวิตซึ่งชนชาวไทยมีความจงรักภักดีชั่วกาลนาน
จากอดีต จนถึงปัจจุบัน คนไทยเราอยู่และคุ้นเคยกับสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นอย่างมาก พระมหากษัตริย์ ไทยทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจนานัปการเพื่อให้พสกนิกรอยู่เย็นเป็นสุข สถาบัน พระมหากษัตริย์จึงหมายถึงสถาบันสูงสุด โดยทรงเป็นพระประมุขของชาติ ทรงเป็นศูนย์รวมแห่งความจงรักภักดี ทรงเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของประชาชนชาวไทยทั้งชาติ ทรงไว้ซึ่งคุณธรรมอันประเสริฐ และทรงเป็นที่เคารพรักเทิดทูนอย่างสูงยิ่งของประชาชนชาวไทยทั้งประเทศ
แนวคิดสถาบันพระมหากษัตริย์
พระ มหากษัตริย์แต่เดิมมีแนวคิดสองประการคือ ถือว่าพระมหากษัตริย์คือ หัวหน้าครอบครัวใหญ่ที่มีความสัมพันธ์กันทางสายเลือดกับหมู่คณะและประการที่ สองคือ พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขของรัฐในทางการเมืองหรือเป็นผู้มีอำนาจสูงสุด โดยเฉพาะในยุโรปมีความเชื่อในเรื่องลัทธิเทวสิทธิ์ (Divine right of King) และถือว่าพระมหากษัตริย์ทรงไว้ซึ่งอำนาจอธิปไตยและมีอำนาจสูงสุดในการปกครองประเทศ รวมทั้งมีอำนาจโดยสมบูรณ์(Absolute)
สำหรับประเทศไทยแนวคิดในเรื่องพระมหากษัตริย์เริ่มปรากฏชัดเจนในยุคกรุงสุโขทัยโดยใช้คำว่า “พ่อขุน” ราษฎร มีความใกล้ชิดกับองค์พระมหากษัตริย์ พระมหากษัตริย์ในสมัยนั้นเรียกว่าพ่อขุนก็พร้อมที่จะช่วยประชาชน โดยประชาชนที่ร้อนอกร้อนใจก็สั่นกระดิ่งเพื่อร้องขอให้พิจารณาอรรถคดีต่างๆ ได้ ทุกวันพระก็ชักชวนข้าราชบริพารและหมู่เหล่าปวงชนพร้อมใจกันฟังเทศน์รับพร ประชาชนใกล้ชิดผู้ปกครองใช้หลักครอบครัวมาบริหารรัฐและใช้หลักศาสนาเข้าผูกใจคนให้อยู่ร่วมกันอย่างปกติสุข ดังนั้นพ่อขุนหรือพระมหากษัตริย์ในสมัยสุโขทัยนั้นจึงเรียกว่า “อเนกชนนิกรสโมสรสมมติ” หมาย ถึงพระมหากษัตริย์ที่ประชาชนและเหล่าอำมาตย์เลือกพระองค์ขึ้นปกครองประเทศ อย่างไรก็ดีในช่วงการเปลี่ยนแผ่นดินและศูนย์กลางความเจริญย้ายลงมาทางใต้ อาณาจักรกรุงศรีอยุธยาเริ่มเจริญขึ้นการแพร่ของแนวคิดต่างๆ ที่อยู่รอบๆ อาณาจักรใหม่ทั้งจากชาติตะวันตกที่เข้ามาค้าขายและชนชาติเขมรหรือขอมก็เข้า สู่แนวคิดเรื่องพระมหากษัตริย์ในช่วงนี้ แนวคิด เรื่องพระมหากษัตริย์จึงมีการผสมผสาน ดังนั้น พระมหากษัตริย์จึงไม่ใช่คนธรรมดาอย่างพ่อขุนแต่เป็นบุคคลที่เป็นคนสร้างชาติ รวมแผ่นดิน แนวคิดทั้งฝรั่ง และเขมรจึงทำให้พระมหากษัตริย์มีอำนาจใจการปกครองสูงสุดดุจได้รับเทวสิทธิ์ และขณะเดียวกันพระมหากษัตริย์ทรงใช้หลักการปกครองโดยมีหลักศาสนากำกับ เพราะพระมหากษัตริย์มีนิติราชประเพณี ทศพิธราชธรรม และทรงมีพระมโนธรรมกำกับ นอกจากนี้พระมหากษัตริย์ไทยยังทรงอยู่คู่กับราษฎรไทยเสมอมา
ปัจจุบัน รัฐธรรมนูญเกือบจะทุกฉบับรับรองฐานะของพระมหากษัตริย์ว่า “ประเทศไทยเป็นราชอาณาจักรอันหนึ่งอันเดียวจะแบ่งแยกมิได้ พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขและทรงดำรงตำแหน่งจอมทัพไทยองค์พระมหากษัตริย์ ทรงดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้ และจะกล่าวหาหรือฟ้องร้องในทางใด ๆ มิได้” ฐานะของ พระมหากษัตริย์ในระบอบประชาธิปไตยก็คือ ทรงเป็นประมุขของประเทศและยังทรงใช้อำนาจอำนาจอธิปไตยทางรัฐสภา คณะรัฐมนตรี และศาล ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ
ความสำคัญของสถาบันพระมหากษัตริย์
ประเทศ ไทยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขของประเทศตลอดมา พระมหากษัตริย์ของไทยได้ทรงปกครองแผ่นดินด้วยทศพิธราชธรรม ได้ทรงบำบัดทุกข์บำรุงสุขของประชาชน ได้ทรงทำนุบำรุงบ้านเมืองให้มีความเจริญมั่นคงก้าวหน้าในด้านต่างๆ บางพระองค์ได้ทรงกอบกู้เอกราชของชาติด้วยความกล้าหาญและเสียสละ อาทิ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช บางพระองค์ได้ทรงดำเนินวิเทโศบายที่ชาญฉลาดทำให้ประเทศไทยสามารถรักษาเอกราช อธิปไตยไว้ได้จนทุกวันนี้ เช่นพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระปิยมหาราช
ชาติ ไทยของเรามีการวิวัฒนาการมาตั้งแต่เริ่มรวมชาติรวมแผ่นเดิน ก่อร่างสร้างเมืองตั้งแต่ อดีต จนมาเป็นประเทศชาติทุกวันนี้ก็เพราะสถาบันพระมหากษัตริย์ สถาบัน พระมหากษัตริย์ยังเป็นสถาบันที่อยู่ในหัวใจของประชาชน เป็นสถาบันที่เคารพ สักการะเหนือเกล้าเหนือกระหม่อมของปวงชนชาวไทยทุกๆ คน ผู้ใดหรือใครจะมาล่วงเกินพระราชอำนาจไม่ได้ ในสมัยสุโขทัยสถาบันพระมหากษัตริย์เปรียบเสมือนพ่อของประชาชนฐานะของพระองค์ เป็นพ่อขุน มีความใกล้ชิดประชาชน พอเข้าสมัยกรุงศรีอยุธยาฐานะของสถาบันพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นสมมุติเทพหรือเป็นเทวดาโดยสมมุติและทรงมีพระราชอำนาจในการปกครองทรง เป็นองค์อธิปัตย์สูงสุดในการปกครองบ้านเมือง ทรงปกครองบ้านเมืองด้วยหลักธรรมะโดยมีทศพิธราชธรรม และธรรมะหลักสำคัญต่างๆ ในการปกครองจนทำให้ไพร่ฟ้าประชาราษฏ์อยู่เย็นเป็นสุข ทรงครองราชย์ป้องเมือง ทำนุบำรุงบ้านเมือง ศาสนา และสังคมมาจนถึงทุกวันนี้ แม้ว่าประเทศไทยจะมีรูปการปกครองระบอบประชาธิปไตย พระราชอำนาจของสถาบันพระมหากษัตริย์ก็มิทรงเสื่อมถอย แต่สถาบันพระมหากษัตริย์กลับเป็นที่เคารพสักการะจากประชาชนมากเช่นเดิมไม่มี เปลี่ยนแปลง*****************************************************************************
Home » พระมหากษัตริย์ของชาติไทย » ความมั่นคงของสถาบันพระมหากษัตริย์
ความมั่นคงของสถาบันพระมหากษัตริย์
พระมหากษัตริย์ของชาติไทย อ่าน 6,029 ครั้'ง
ปัญหาเกี่ยวกับความั่นคงของสถาบันพระมหากษัตริย์
๑. ปัญหาการบ่อนทำลายความศรัทธาและความจงรักภักดี มี ผู้ไม่ปราถนาดีได้พยายามทำลายความศรัทธา และความจงรักภักดีของประชาชนโดยเฉพาะเยาวชนต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และพระบรมวงศานุวงศ์ อาทิ มีการปล่อยข่าวลือต่างๆ จนบางคนได้ตกเป็นเครื่องมือของผู้ไม่ปราถนาดีโดยไม่รู้ตัว
๒. ปัญหาความไม่รู้ไม่เข้าใจ ประชาชน และเยาวชนไม่สนใจในประวัติศาสตร์ของชาติไทย ขาดความรู้ความเข้าใจ และความซาบซึ่งในพระราชประวัติ พระราชกรณียกิจ และพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์
๓. ปัญหาการหาประโยชน์ส่วนตน มี การนำเอาสถาบันพระมหากษัตริย์ไปหาประโยชน์ส่วนตน เช่น มีการทุจริตเกี่ยวกับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ การทำโครงการหรือกิจกรรมเพื่อหาประโยชน์ส่วนตนโดยอ้างความจงรักภักดีบังหน้า
๔. ปัญหาความไม่เหมาะสม มีการชักชวนให้แสดงความจงรักภักดีในทางที่ไม่เหมาะสมและไม่ถูกต้อง ก่อให้เกิดความเดือดร้อยแก่ผู้อื่น เช่น มีการเรี่ยไรเชิงบังคับ
๕. ปัญหาการไม่เจริญรอยตามพระยุคลบาท นับเป็นโชคดีของคนไทยและประเทศไทยที่มีพระมหากษัตริย์ผู้ทรงคุณธรรมอัน ประเสริฐ แค่เป็นที่น่าเสียใจที่นักการเมือง ข้าราชการ นักธุรกิจ และประชาชนหลายคนไม่ได้ปฏิบัติตามรอยพระยุคลบาท ไม่ได้ปฏิบัติตามพระบรมราโชวาท ไม่ได้เห็นแก่ประโยชน์และความสุขของประชาชน ยังมีการทุจริตและประพฤติมิชิบ มีการเบียดเบียนประชาชน เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนมากกว่าประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติ จึงทำให้สังคมและประเทศชาติของเราต้องประสบปัญหาเพิ่มมากขึ้นและรุนแรงยิ่ง ขึ้น ทั้งปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาสังคม และปัญหาการเมือง
การส่งเสริมสถาบันพระมหากษัตริย์
๑. ทุกคนที่มีความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ต้องถือเป็นหน้าที่ที่จะต้องส่งเสริมความมั่นคงของสถาบันพระมหากษัตริย์ ช่วยสอดส่องป้องกันภัย และความเสียหายที่กระทบกระเทือนต่อความมั่นคงของสถาบันพระมหากษํตริย์ เช่น ขจัดข่าวร้าย สลายข่าวลือ ที่ทำลายความศรัทธาและความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์
๒. แสดงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษํตริย์ และแสดงความเคารพต่อพระบรมวงศ์วานุวงศ์ทั้งกายกรรม วจีกรรม และมโนกรรม
๓. ศึกษาให้มีความรู้ความเข้าใจในประวัติศาสตร์ของชาติไทย ให้มีความซาบซึ้งในพระราชประวัติ พระราชกรณียกิจ และพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์
๔. เผยแพร่ความสำคัญของสถาบันพระมหากษัตริย์ พระราชประวัติ พระราชกรณียกิจ และพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ โดยเฉพาะในวันสำคัญ ควรมีการจัดกิจกรรมต่างๆ และเผยแพร่ทางสื่อมวลชน อย่างกว้างขวาง
๕. ร่วมกันปฏิบัติความดีตามรอยพระยุคลบาท และพระบรมราโชวาทในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
จากหนังสือ ประวัติศาสตร์ชาติไทยกับเอกลักษณ์ของชาติ โดย สมพร เทพสิทธา
แกนหลักแห่งความมั่นคงของชาติได้แก่ สถาบันชาติ สถาบันศาสนา และสถาบันพระมหากษัตริย์
ความ สำคัญของสถาบันทั้งสามปรากฎอยู่
พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอ
แดง คือ โลหิตเราไซร้ ซึ่งยอมสละได้ เพื่อรักษาชาติศาสนา (แดงหมายถึงสถาบันชาติ)
ขาว คือ บริสุทธิ์ศรีสวัสดิ์ หมายถึงพระไตรรัตน์ และธรรมคุ้มจิตใจ (ขาวหมายถึงสถาบันศาสนา)
น้ำเงิน คือ สีโสภา อันจอมประชา ธ โปรดเป็นส่วนพระองค์ (น้ำเงินหมายถึงสถาบันพระมหากษํ
สถาบัน ชาติ สถาบันศาสนา และสถาบันพระมหากษัตริย์ จึงเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ไม่อาจแยกจากกันได้ ตามคำกล่าวที่ว่า “พระมหากษัตริย์คู่ชาติ พุทศาสน์คู่ไทย”
ความหมายของสถาบันพระมหากษัตริย
ความหมายของ “พระมหากษัตริย์” ตามรูปศัพท์ หมายถึง “นักรบผู้ยิ่งใหญ่” ถ้า จะถือตามความหมายที่ใช้กันอยู่ท
ไม่ว่าจะเลือกใช้คำใด คำว่า “ราชา” “กษัตริย์” “จักรพรรดิ” โดยความหมายแล้วน่าจะใช้เหมือนๆ
จากอดีต จนถึงปัจจุบัน คนไทยเราอยู่และคุ้นเคยกับสถาบั
แนวคิดสถาบันพระมหากษัตริย์
พระ มหากษัตริย์แต่เดิมมีแนวคิดสองป
สำหรับประเทศไทยแนวคิดในเรื่องพ
ปัจจุบัน รัฐธรรมนูญเกือบจะทุกฉบับรับรอง
ความสำคัญของสถาบันพระมหากษัตริ
ประเทศ ไทยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประม
ชาติ ไทยของเรามีการวิวัฒนาการมาตั้ง
Home » พระมหากษัตริย์ของชาติ
ความมั่นคงของสถาบันพระมหากษัตร
พระมหากษัตริย์ของชาติไทย อ่าน 6,029 ครั้'ง
ปัญหาเกี่ยวกับความั่นคงของสถาบ
๑. ปัญหาการบ่อนทำลายความศรัทธาและ
๒. ปัญหาความไม่รู้ไม่เข้าใจ ประชาชน และเยาวชนไม่สนใจในประวัติศาสตร
๓. ปัญหาการหาประโยชน์ส่วนตน มี การนำเอาสถาบันพระมหากษัตริย์ไป
๔. ปัญหาความไม่เหมาะสม มีการชักชวนให้แสดงความจงรักภั
๕. ปัญหาการไม่เจริญรอยตามพระยุคลบ
การส่งเสริมสถาบันพระมหากษัตริย
๑. ทุกคนที่มีความจงรักภักดีต่อสถา
๒. แสดงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระ
๓. ศึกษาให้มีความรู้ความเข้าใจในป
๔. เผยแพร่ความสำคัญของสถาบันพระมห
๕. ร่วมกันปฏิบัติความดีตามรอยพระย
จากหนังสือ ประวัติศาสตร์ชาติไทยกับเอกลักษ
เกิดอีกกี่ชาติก็ไม่เจอมหาราชชื่อ ภูมิพล
ตอบลบขอพระองค์ทรงพระเจริญ
ตอบลบพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นมิ่งขวัญของปวงชนชาวไทย คนไทยทุกคนมีความปลาบปลื้มยินดีที่ได้อยู่ใต้ร่มพระบารมีของพระองค์ ขอพระองค์ทรงพระเจริญ
ตอบลบพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นมิ่งขวัญของปวงชนชาวไทย คนไทยทุกคนมีความปลาบปลื้มยินดีที่ได้อยู่ใต้ร่มพระบารมีของพระองค์ ขอพระองค์ทรงพระเจริ
ตอบลบญ
ขอให้พระองค์ทรงมีพระชนม์มายุยิ่งยืนนาน
ตอบลบเราผองไทย ใจภักดิ์ รักในหลวง
ตอบลบพระองค์ห่วง ปวงราษฎร์ พระบาทท่าน
ทรงศึกษา หาแนว แล้วประทาน
ธ ทรงงาน นานช้า มาสู่ไทย
อุปถัมภ์ ค้ำชู ศาสนา
พระมหา กรุณา อันยิ่งใหญ่
เสมอภาค หลากชน สนพระทัย
หลอมหัวใจ ให้อยู่ รู้พึ่งพา
ขอให้พระองค์ทรงมีพระชนม์มายุยิ่งยืนนาน
ตอบลบขอให้พระองค์ทรงมีพระชนม์มายุยิ่งยืนนาน
ตอบลบ