เส้นใต้บรรทัด (จิตกร บุษบา)
ฯพณฯ จตุพร พรหมพันธุ์ (เส้นใต้บรรทัด)
สังคมอย่าได้สับสนว่า จตุพร พรหมพันธุ์ ได้ออกจากคุกเพราะ"สิทธิคุ้มกัน" เนื่องจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. รับรองสถานภาพ ส.ส. ให้เขา
ที่จริงแล้ว ทนายความของจตุพรฉลาดกว่านั้นครับ
เขายื่นขอประกันตัวจตุพรต่อศาลทันที โดยอ้างเหตุการเป็น ส.ส. ที่จำเป็นต้องไปรายงานตัวและทำงานในหน้าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรต่อไป
นั่นหมายถึงว่า เขาไม่ต้องรอให้มีการเลือกประธานสภา แล้วให้ประธานสภาเป็นผู้ขอตัวจตุพรกับศาลเอง ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น ประธานสภาก็เหมือนกับนายประกัน ที่จะต้องรับผิดชอบ หากจตุพรมีพฤติกรรมซ้ำเก่ากับความผิดที่ถูกตั้งข้อหาและศาลห้าม รวมทั้งเมื่อหมดสมัยประชุม จตุพรอาจต้องกลับเข้าเรือนจำและค่อยเดินออกมาทำงาน เมื่อสมัยประชุมใหม่เริ่มอีก ซึ่งเป็นเรื่องที่ขบขัน
ยิ่งหากจตุพร ได้เป็นรัฐมนตรีด้วยแล้ว คงน่าเกลียดพิลึก ที่ต้องเทียวเข้าเทียวออก ระหว่างกระทรวง สภา และคุก
อย่าลืมจตุพรไม่ใช่คนธรรมดา เขามี "ราคา" ในสายตาทักษิณและคนเสื้อแดง
ต้องไม่ลืมว่า ตลอดการชุมนุมยึดแยกราชประสงค์ จตุพรเป็นแกนนำที่สำคัญที่สุด ในการสั่งซ้ายหัน ขวาหัน โดยคำสั่งนั้นถ่ายทอดมาจาก "แดนไกล" อีกทอดหนึ่ง
จตุพรกล้าที่จะด่ากราด ตั้งแต่สามัญชนคนธรรมดาไปจนถึง "ฟ้า" ถึง "อำมาตย์"
นอกจากงานข้างถนน จตุพรยังทำงานในสภา ไม่ว่าจะอภิปรายหรือให้สัมภาษณ์ ล้วนถูกนำไปพาดหัวข่าววันรุ่งขึ้นเสมอ
จตุพรพูดโดยไม่สนใจตรรกะเหตุผล จตุพรเชื่อในสิ่งที่จตุพรเล่า โดยไม่สนใจคำทักท้วงของทั้งสังคมว่า มันตลกและไร้เหตุผลสักแค่ไหน จนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กล่าวชื่นชมว่า นายจตุพรโกหกจนเชื่อคำโกหกของตนเองได้อย่างสนิทใจ
จตุพรจึงเป็น "เครื่องมือ" ที่ใช้ได้ และดูคุ้มค่า น่าลงทุน
ผมเชื่อมั่นว่า จตุพรกลับมาคราวนี้ต้องมีทีเด็ด และเชื่อว่าพรรคเพื่อไทย ก็พร้อมจะมอบทีเด็ดให้แก่จตุพร
หลายต่อหลายครั้ง ที่จตุพรและคนเสื้อแดง มีท่าทีแข็งกร้าว ในยามลุ้นผลการขอปล่อยตัวชั่วคราวหรือขอประกันตัวกับศาล แต่การติดคุกล่าสุด จตุพรกับคนเสื้อแดงกลับนิ่งเฉยผิดปกติ จึงน่าคิดว่า "ค่าติดคุก" ของ จตุพร จะเป็นเก้าอี้รัฐมนตรีตัวไหน
การถูกควบคุมตัวหรือติดคุกของจตุพร มีความหมายกับพรรคเพื่อไทยมาก...
ในช่วงหลัง จตุพรก้าวร้าว จตุพรพูดเท็จ จตุพรไม่รู้จักแยกแยะที่ต่ำที่สูง ด่ากราดไปหมด จนช่วยลดความน่าเชื่อถือและความน่าสนับสนุนของพรรคเพื่อไทยได้อย่างฮวบฮาบ โดยเฉพาะเมื่อ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ลาออกจากพรรคเพื่อไทย โดยทิ้งคำชวนคิดผ่านปากคนใกล้ชิดเอาไว้อย่างน่าสนใจว่า พรรคเพื่อไทย ดูเหมือนจะไม่ใส่ใจเรื่องความจงรักภักดีมากพอ
คำพูดที่จตุพรปราศรัย พาดพิงฉวัดเฉวียนไปถึงคำว่า "ลูกของแผ่นดิน" หรือ "พ่อ" หรือ "แม่" ชนิดที่วิญญูชนต้องขนลุก เป็นฟางเส้นสุดท้าย ที่พลเอกชวลิตฉวยใช้เพื่อกระโดดออกจากพรรค
ฉะนั้น หลังเปิดห้องประชุม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์รังสิต แถลงนโยบาย "ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ" ได้ไม่นาน จตุพรก็ถูกศาลถอนประกัน โดยที่พรรคเพื่อไทยก็ดี คนเสื้อแดง นปช. ก็ดี ไม่มีใครออกมาขู่หรือมาเคลื่อนไหวใดๆ ทั้งสิ้น เพราะเวลานั้น ชัดเจนแล้วว่าจะมีการเลือกตั้งใหม่ และชัดเจนในเวลาต่อมาด้วยว่า ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร คือคนที่ทักษิณกำหนดตัวให้เป็นผู้สมัครระบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 1 ของพรรค และเป็นว่าที่นายกรัฐมนตรี
การไม่มีจตุพร พรหมพันธุ์ เดินป้วนเปี้ยนหาเสียงอยู่ในเวลานั้น นับเป็นผลดีกับยิ่งลักษณ์และพรรคเพื่อไทย
เพราะยิ่งลักษณ์ ปรากฏตัวพร้อมกับคำพูดสุดเก๋ว่า "แก้ไข ไม่แก้แค้น"
ถ้ามีจตุพรยืนหน้ากร้อ คอสั้น หัวหยิก ตาโปนอยู่ด้วย คำนี้จะไม่มีความหมายเลย
ดังนั้น จะมีอะไรดีไปกว่า ปล่อยให้จตุพรติดคุก และไม่เข้าไปเยี่ยมเยียน วนเวียนให้คนสะดุดตา
การอยู่ในคุกด้วยรอยยิ้มชื่น ไม่โวยวาย ไม่ตัดพ้อ ย่อมไม่ใช่จตุพรที่เป็น "นกรู้" ที่คอยหนีจากมวลชนและแกนนำคนอื่นๆ ออกไปในเวลาคับขันได้
แต่น่าจะเป็นจตุพร ที่ได้รับ "เงื่อนไข" ดีๆ ที่บัดนี้ เขาได้เดินยิ้มหวานออกจากเรือนจำเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ทันทีที่ศาลเมตตา สั่งปล่อยตัวชั่วคราว นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กับนายนิสิต สินธุไพร แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง ก็เดินออกจากเรือนจำด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มและอารมณ์ดี ท่ามกลางแกนนำและกลุ่มคนเสื้อแดงที่เดินทางมาให้กำลังใจ มีพระสงฆ์วัดใหม่พิเรนทร์ นำน้ำมนต์มาประพรมให้ เพื่อปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย ก่อนที่นายจตุพร จะไปปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.ในสภา
ท่ามกลางมวลมิตรเสื้อแดงที่แห่ห้อมล้อมหน้าล้อมหลัง จตุพรก้าวอาดๆขึ้นเวทีปราศรัย ยืนยันจะเดินหน้าต่อสู้เพื่อคนเสื้อแดงต่อไป โดยหยอดคำหวานว่า หากให้เลือกว่า 1.เป็นส.ส. 2.เป็นรัฐมนตรี และ 3.เป็นคนเสื้อแดง ถ้าเลือกได้เพียงอย่างเดียว ตนขอเลือกเป็นคนเสื้อแดง
จตุพรยังกล่าวด้วยว่า รู้สึกดีใจที่แกนนำคนเสื้อแดงได้เข้ามาเป็น ส.ส. หลายคน และกล่าวฝากไปถึงนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รักษาการรองนายกรัฐมนตรี ที่เคยพูดว่าจะขุดรูอยู่นั้น บัดนี้ได้ทำตามคำพูดหรือไม่
คำพูดของจตุพรนั้นน่าคิด
น่าคิดว่าจตุพรจะใฝ่ใจในหน้าที่ "สมาชิกสภาพผู้แทนราษฎร" ให้ดีกว่าเดิมหรือไม่ เพราะเขาประกาศชัดเจนแล้วว่า เขารักความเป็นคนเสื้อแดงมากกว่า ส.ส. แน่นอน เพราะถ้าให้เลือก เขาเลือกเป็นคนเสื้อแดง
ในรัฐบาลที่ผ่านมา ก็ชัดเจนว่า จตุพรรักการเป็นคนเสื้อแดง แต่ก็รักเงินเดือนและสิทธิคุ้มกันที่ได้จากสถานภาพ ส.ส.ด้วย ทว่า รักงานของคนเสื้อแดงมากกว่า ถึงขั้นมีสถิติทำงานในสภา เช่น การรับรองกฎหมายสำคัญๆ ของประเทศเพียง 1% เท่านั้นเอง
น่าคิดด้วยว่า จตุพรจะได้เป็นรัฐมนตรีกระทรวงหนึ่งกระทรวงใดหรือไม่ เพราะจตุพรกล้าเอ่ยปากทวงการขุดรูอยู่ของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ก่อนหน้านี้ พูดในการปราศรัยหาเสียงกับพี่น้องชาวสายบุรี ปัตตานีว่า
"ขอให้คน กทม.ได้รับรู้ว่าพี่น้องคนบ้านเราเลือกเบอร์ 10 เราจะได้กลับไปเป็นรัฐบาลมาพัฒนาพื้นที่ทั่วประเทศ โดยเฉพาะชายแดนภาคใต้ แต่ถ้าเขามาเอานายจตุพร พรหมพันธุ์ มาเป็นรัฐมนตรี สงสัยพวกเราต้องขุดรูอยู่"
หากจตุพรได้เป็นรัฐมนตรีจริง ยิ่งเพิ่มความเป็น "สิ่งมหัศจรรย์ทางการเมืองไทย" เพิ่มขึ้นไปอีก จากเดิมที่
1.จตุพรเป็นคนไทยแรกในประวัติศาสตร์ ที่เป็นทั้ง ส.ส. และแกนนำม็อบ ทำผิดกฎหมายหลายกรณี แล้วใช้สิทธิคุ้มกันของสภาคุ้มกะลาหัว ให้เดินเข้าเดินออกสภา และเดินออกมาทำผิดกฎหมายเพิ่มได้ หนแล้วหนเล่า
2.ในวันเดียวกัน เขาสามารถปลุกปั่นให้คนล้มล้างรัฐบาลได้ ยึดบ้านเผาเมืองได้ และเดินเข้าสภาตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลได้ ตลอดจนตรวจสอบเหตุการณ์เผาบ้านเผาเมือง เหตุการณ์ที่มีผู้เสียชีวิต 91 ศพได้ด้วย
3.จตุพรเป็น "ผู้ต้องหา" ตามกฎหมาย และเป็นฝ่าย "นิติบัญญัติ" คือเป็นผู้พิจารณากฎหมาย แก้ไขกฎหมาย หรือรับรองกฎหมายไปด้วยในตัว
4.จตุพรถูกคุมขังโดยหมายศาล แต่สามารถสมัครรับเลือกตั้งได้ และได้รับการรับรองให้เป็น ส.ส. โดย กกต. โดยการรับรองการเป็น ส.ส. ยังต้องตั้งกรรมการตรวจสอบคุณสมบัติของเขาต่อไป งงไหมล่ะ
5.หากจตุพรได้เป็นรัฐมนตรี จตุพรจะเป็นผู้ต้องหาคดีล้มเจ้าคนแรก ที่เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณ
6.จตุพรยังอาจเป็น ส.ส. คนแรกที่เดินออกจากคุก โดยมี กกต. เดินสวนเข้าคุก เพราะละเว้นปฏิบัติหน้าที่หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เนื่องจากรับรองสถานภาพ ส.ส. ให้จตุพร
7.จตุพรอาจยังสนุกกับการขึ้นศาลในฐานะโจทย์ ที่ฟ้องบุคคลอื่นๆ ไว้หลายคดี แต่อาจไม่เดินขึ้นศาล ในฐานะจำเลย ในอีกหลายคดี เพราะติดทำหน้าที่ ส.ส.
8.จตุพรเป็น "ไพร่" ไม่กี่คน ที่ใส่เสื้อผ้าแบรนด์หรู นาฬิกาแบรนด์ล้ำ ชนิดที่ "อำมาตย์" หลายคนยังขยาดที่จะใช้
หากไม่คิดมาก จตุพรนับเป็นสีสันทางการเมืองไทย ที่ท้าทายหลัก "นิติรัฐ" และ "นิติธรรม" ของรัฐบาลนายกฯ ยิ่งลักษณ์ นับจากนี้ไปด้วย!!
จิตกร บุษบา
http://www.naewna.com/news.asp?ID=273516
ฯพณฯ จตุพร พรหมพันธุ์ (เส้นใต้บรรทัด)
สังคมอย่าได้สับสนว่า จตุพร พรหมพันธุ์ ได้ออกจากคุกเพราะ"สิทธิคุ้มกัน
ที่จริงแล้ว ทนายความของจตุพรฉลาดกว่านั้นคร
เขายื่นขอประกันตัวจตุพรต่อศาลท
นั่นหมายถึงว่า เขาไม่ต้องรอให้มีการเลือกประธา
ยิ่งหากจตุพร ได้เป็นรัฐมนตรีด้วยแล้ว คงน่าเกลียดพิลึก ที่ต้องเทียวเข้าเทียวออก ระหว่างกระทรวง สภา และคุก
อย่าลืมจตุพรไม่ใช่คนธรรมดา เขามี "ราคา" ในสายตาทักษิณและคนเสื้อแดง
ต้องไม่ลืมว่า ตลอดการชุมนุมยึดแยกราชประสงค์ จตุพรเป็นแกนนำที่สำคัญที่สุด ในการสั่งซ้ายหัน ขวาหัน โดยคำสั่งนั้นถ่ายทอดมาจาก "แดนไกล" อีกทอดหนึ่ง
จตุพรกล้าที่จะด่ากราด ตั้งแต่สามัญชนคนธรรมดาไปจนถึง "ฟ้า" ถึง "อำมาตย์"
นอกจากงานข้างถนน จตุพรยังทำงานในสภา ไม่ว่าจะอภิปรายหรือให้สัมภาษณ์
จตุพรพูดโดยไม่สนใจตรรกะเหตุผล จตุพรเชื่อในสิ่งที่จตุพรเล่า โดยไม่สนใจคำทักท้วงของทั้งสังค
จตุพรจึงเป็น "เครื่องมือ" ที่ใช้ได้ และดูคุ้มค่า น่าลงทุน
ผมเชื่อมั่นว่า จตุพรกลับมาคราวนี้ต้องมีทีเด็ด
หลายต่อหลายครั้ง ที่จตุพรและคนเสื้อแดง มีท่าทีแข็งกร้าว ในยามลุ้นผลการขอปล่อยตัวชั่วคร
การถูกควบคุมตัวหรือติดคุกของจต
ในช่วงหลัง จตุพรก้าวร้าว จตุพรพูดเท็จ จตุพรไม่รู้จักแยกแยะที่ต่ำที่ส
คำพูดที่จตุพรปราศรัย พาดพิงฉวัดเฉวียนไปถึงคำว่า "ลูกของแผ่นดิน" หรือ "พ่อ" หรือ "แม่" ชนิดที่วิญญูชนต้องขนลุก เป็นฟางเส้นสุดท้าย ที่พลเอกชวลิตฉวยใช้เพื่อกระโดด
ฉะนั้น หลังเปิดห้องประชุม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์รังสิต แถลงนโยบาย "ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ" ได้ไม่นาน จตุพรก็ถูกศาลถอนประกัน โดยที่พรรคเพื่อไทยก็ดี คนเสื้อแดง นปช. ก็ดี ไม่มีใครออกมาขู่หรือมาเคลื่อนไ
การไม่มีจตุพร พรหมพันธุ์ เดินป้วนเปี้ยนหาเสียงอยู่ในเวล
เพราะยิ่งลักษณ์ ปรากฏตัวพร้อมกับคำพูดสุดเก๋ว่า
ถ้ามีจตุพรยืนหน้ากร้อ คอสั้น หัวหยิก ตาโปนอยู่ด้วย คำนี้จะไม่มีความหมายเลย
ดังนั้น จะมีอะไรดีไปกว่า ปล่อยให้จตุพรติดคุก และไม่เข้าไปเยี่ยมเยียน วนเวียนให้คนสะดุดตา
การอยู่ในคุกด้วยรอยยิ้มชื่น ไม่โวยวาย ไม่ตัดพ้อ ย่อมไม่ใช่จตุพรที่เป็น "นกรู้" ที่คอยหนีจากมวลชนและแกนนำคนอื่
แต่น่าจะเป็นจตุพร ที่ได้รับ "เงื่อนไข" ดีๆ ที่บัดนี้ เขาได้เดินยิ้มหวานออกจากเรือนจ
ทันทีที่ศาลเมตตา สั่งปล่อยตัวชั่วคราว นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กับนายนิสิต สินธุไพร แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง ก็เดินออกจากเรือนจำด้วยใบหน้าท
ท่ามกลางมวลมิตรเสื้อแดงที่แห่ห
จตุพรยังกล่าวด้วยว่า รู้สึกดีใจที่แกนนำคนเสื้อแดงได
คำพูดของจตุพรนั้นน่าคิด
น่าคิดว่าจตุพรจะใฝ่ใจในหน้าที่
ในรัฐบาลที่ผ่านมา ก็ชัดเจนว่า จตุพรรักการเป็นคนเสื้อแดง แต่ก็รักเงินเดือนและสิทธิคุ้มก
น่าคิดด้วยว่า จตุพรจะได้เป็นรัฐมนตรีกระทรวงห
"ขอให้คน กทม.ได้รับรู้ว่าพี่น้องคนบ้านเ
หากจตุพรได้เป็นรัฐมนตรีจริง ยิ่งเพิ่มความเป็น "สิ่งมหัศจรรย์ทางการเมืองไทย" เพิ่มขึ้นไปอีก จากเดิมที่
1.จตุพรเป็นคนไทยแรกในประวัติศา
2.ในวันเดียวกัน เขาสามารถปลุกปั่นให้คนล้มล้างร
3.จตุพรเป็น "ผู้ต้องหา" ตามกฎหมาย และเป็นฝ่าย "นิติบัญญัติ" คือเป็นผู้พิจารณากฎหมาย แก้ไขกฎหมาย หรือรับรองกฎหมายไปด้วยในตัว
4.จตุพรถูกคุมขังโดยหมายศาล แต่สามารถสมัครรับเลือกตั้งได้ และได้รับการรับรองให้เป็น ส.ส. โดย กกต. โดยการรับรองการเป็น ส.ส. ยังต้องตั้งกรรมการตรวจสอบคุณสม
5.หากจตุพรได้เป็นรัฐมนตรี จตุพรจะเป็นผู้ต้องหาคดีล้มเจ้า
6.จตุพรยังอาจเป็น ส.ส. คนแรกที่เดินออกจากคุก โดยมี กกต. เดินสวนเข้าคุก เพราะละเว้นปฏิบัติหน้าที่หรือป
7.จตุพรอาจยังสนุกกับการขึ้นศาล
8.จตุพรเป็น "ไพร่" ไม่กี่คน ที่ใส่เสื้อผ้าแบรนด์หรู นาฬิกาแบรนด์ล้ำ ชนิดที่ "อำมาตย์" หลายคนยังขยาดที่จะใช้
หากไม่คิดมาก จตุพรนับเป็นสีสันทางการเมืองไท
จิตกร บุษบา
http://www.naewna.com/news.asp
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น